Brand new Course Package released! Get 30% off your first purchase with code “Eduma”. Find out more!

รีวิวหนังสือ “ทำน้อยแต่รวยมาก” (The 4-Hour Workweek)

รีวิวหนังสือ “ทำน้อยแต่รวยมาก” (The 4-Hour Workweek) คำจำกัดความที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้คือ “แหกคอกพิชิตอิสรภาพ: ทำงานน้อยกว่า รวยกว่า ใช้ชีวิตมากกว่า”

ขอสรุปสาระสำคัญของหนังสือ “ทำน้อยแต่รวยมาก” (The 4-Hour Workweek) ของ Timothy Ferriss ครับ

เกี่ยวกับหนังสือ

“ทำน้อยแต่รวยมาก” (The 4-Hour Workweek) เป็นหนังสือที่นำเสนอแนวคิดการทำงานรูปแบบใหม่ที่เน้นประสิทธิภาพและอิสรภาพในการใช้ชีวิต เขียนโดย Timothy Ferriss ผู้ประกอบการและนักเขียนชื่อดัง

วันที่พิมพ์ครั้งแรก: ปี 2007

แก่นสำคัญของหนังสือ

หนังสือนำเสนอวิธีการหลุดพ้นจากการทำงาน 9-5 แบบดั้งเดิม และสร้างรายได้แบบอัตโนมัติ (Passive Income) โดยใช้หลักการ DEAL:

D – Definition (การนิยามใหม่)

  • ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการอะไรในชีวิต
  • กำหนดต้นทุนของความฝัน (ค่าใช้จ่ายที่ต้องการจริงๆ)
  • เปลี่ยนความกลัวให้เป็นพลัง
  • แก้ไขความเชื่อที่จำกัดตัวเอง

E – Elimination (การกำจัด)

  • ใช้กฎพาเรโต (80/20) ในการจัดการเวลาและงาน
  • กำจัดงานที่ไม่จำเป็นออกไป
  • ลดการประชุมที่ไม่จำเป็น
  • จำกัดการเช็คอีเมลและโซเชียลมีเดีย

A – Automation (การทำให้เป็นระบบอัตโนมัติ)

  • สร้างธุรกิจที่สร้างรายได้อัตโนมัติ (Muse Business)
  • ใช้ระบบและเทคโนโลยีช่วยในการทำงาน
  • จ้างผู้ช่วยเสมือนจริง (Virtual Assistant)
  • สร้างระบบการทำงานที่ไม่ต้องพึ่งพาตัวเอง

L – Liberation (การปลดปล่อย)

  • ทำงานจากระยะไกล (Remote Work)
  • ใช้ชีวิตแบบ “Digital Nomad”
  • สร้างสมดุลระหว่างงานและชีวิต
  • มีเวลาทำในสิ่งที่รัก

แนวคิดสำคัญอื่นๆ

  1. Mini-Retirements: แทนที่จะรอเกษียณตอนแก่ ให้แบ่งช่วงพักผ่อนสั้นๆ ตลอดชีวิตการทำงาน
  2. Parkinson’s Law: งานจะขยายเวลาตามเวลาที่มี ดังนั้นควรกำหนดเดดไลน์ที่สั้นและเข้มงวด
  3. Batching: จัดกลุ่มงานที่คล้ายกันไว้ด้วยกัน เพื่อลดเวลาในการสลับไปมาระหว่างงาน
  4. Income Autopilot: การสร้างระบบธุรกิจที่สร้างรายได้โดยใช้เวลาน้อยที่สุด

การประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง

  1. การจัดการเวลา
  • ตั้งเป้าหมายรายวันที่ชัดเจน
  • ทำงานสำคัญในช่วงที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
  • กำหนดเวลาตอบอีเมลที่แน่นอน
  1. การสร้างธุรกิจ
  • เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีกำไรสูง
  • ทดสอบตลาดก่อนลงทุนจริง
  • สร้างระบบการจัดส่งและบริการลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ
  1. การพัฒนาตนเอง
  • เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่จำเป็น
  • สร้างเครือข่ายที่มีคุณค่า
  • ลงทุนในตัวเองและการเรียนรู้

10 ข้อคิดของหนังสือ:

  1. อย่ารอเกษียณ: เริ่มต้นใช้ชีวิตในฝันตั้งแต่วันนี้
  2. กล้าที่จะแตกต่าง: อย่าเดินตามกรอบสังคม
  3. ทำงานอย่างชาญฉลาด ไม่ใช่ทำงานหนัก: ใช้เทคโนโลยีและระบบช่วย
  4. สร้างธุรกิจที่ “เล็ก” แต่ “ทำกำไร”: เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
  5. จ้าง Outsourcing: มอบหมายงานที่ไม่ถนัดให้คนอื่นทำ
  6. ใช้ประโยชน์จาก “Pareto’s Law” (กฎ 80/20): โฟกัสที่งานสำคัญ 20% ที่สร้างผลลัพธ์ 80%
  7. อย่ากลัวความล้มเหลว: เป็นบทเรียนสู่ความสำเร็จ
  8. เรียนรู้ที่จะ “ปล่อยวาง”: มอบหมายงาน และเชื่อใจทีมงาน
  9. ลงทุนในตัวเอง: พัฒนาความรู้ ทักษะ และประสบการณ์
  10. ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า: เดินทาง เรียนรู้ และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ

สรุปการอ่าน 3 ประเด็นสำคัญ:

  1. D – Definition: กำหนดนิยามความสำเร็จและไลฟ์สไตล์ในแบบของคุณ
  2. E – Elimination: กำจัดสิ่งที่ไม่จำเป็น ทั้งงาน และกิจวัตรประจำวัน
  3. A – Automation: สร้างระบบธุรกิจแบบอัตโนมัติ

ความประหลาดใจหรือความแปลกใหม่ในเรื่องนี้คืออะไร:

  • แนวคิด DEAL: เป็นกรอบความคิดที่เรียบง่าย แต่ทรงพลัง ช่วยให้ผู้อ่านนำไปปรับใช้ได้จริง
  • การตั้งคำถามกับความเชื่อเดิมๆ: เช่น การทำงานหนัก การรอคอยความสุขหลังเกษียณ
  • การให้ความสำคัญกับ “อิสรภาพ” มากกว่า “เงิน”: มองว่าเงินเป็นเครื่องมือ ไม่ใช่เป้าหมายสูงสุด

คิดเชื่อมโยงหนังสือเข้ากับการเป็นทำธุรกิจจัดการเดี่ยว:

หนังสือเล่มนี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการทำธุรกิจจัดการเดี่ยว เพราะเน้นการสร้างธุรกิจแบบอัตโนมัติ ใช้เทคโนโลยี และ Outsourcing ซึ่งช่วยลดภาระงาน และเพิ่มอิสรภาพในการทำงาน ผู้ประกอบการสามารถนำแนวคิด DEAL ไปปรับใช้ เพื่อออกแบบธุรกิจและไลฟ์สไตล์ที่ต้องการได้

ศัพท์เทคนิค 10 คำที่อยู่ในหนังสือพร้อมความหมาย:

  1. New Rich (NR): กลุ่มคนที่ให้ความสำคัญกับอิสรภาพ และการใช้ชีวิต มากกว่าเงินทอง
  2. Deferring: การผัดวันประกันพรุ่ง รอคอยความสุขในอนาคต เช่น รอเกษียณ
  3. Absolute Income: รายได้โดยรวม ไม่หักค่าใช้จ่าย
  4. Relative Income: รายได้ต่อหน่วยเวลา เช่น รายได้ต่อชั่วโมง
  5. Remote Income: รายได้ที่เกิดจากการทำงานนอกสถานที่ เช่น ทำงานผ่านอินเทอร์เน็ต
  6. Outsourcing: การจ้างบุคคลภายนอก หรือบริษัท มาทำงานบางอย่างให้
  7. Pareto’s Law (กฎ 80/20): 80% ของผลลัพธ์ มาจาก 20% ของสาเหตุ
  8. DEAL: ตัวย่อของ Definition, Elimination, Automation, Liberation ซึ่งเป็นขั้นตอนในการสร้างธุรกิจแบบ 4-Hour Workweek
  9. Lifestyle Design: การออกแบบชีวิต และการทำงาน ตามที่ต้องการ
  10. Mini-Retirements: การหยุดพักจากงานเป็นช่วงๆ เพื่อเดินทาง หรือทำสิ่งที่ชอบ

ก่อนเริ่มอ่านแล้วหลังอ่านคิดว่าทำอะไรให้เปลี่ยนแปลงและดีขึ้น:

  • ก่อนอ่าน: เคยคิดว่าต้องทำงานหนัก เก็บเงินเยอะๆ เพื่อจะได้สบายตอนแก่
  • หลังอ่าน: เปลี่ยนความคิด มองหาโอกาสในการสร้างธุรกิจ และรายได้แบบ Passive Income เพื่อมีอิสรภาพทางเวลา และสถานที่ มากขึ้น

3 สิ่งที่จะเป็นประโยชน์ที่นำไปใช้ในการทำธุรกิจจัดการเดี่ยว:

  1. Automation: สร้างระบบตอบรับอีเมล จัดการออเดอร์ และติดตามลูกค้าแบบอัตโนมัติ
  2. Outsourcing: จ้างผู้ช่วยเสมือน (Virtual Assistant) ช่วยงานด้านเอกสาร การตลาด หรือบริการลูกค้า
  3. Effective Time Management: จัดลำดับความสำคัญของงาน โฟกัสที่งานสำคัญ และใช้เทคนิค Pomodoro ในการทำงาน

บทที่ชอบที่สุดในนี้:

บทที่ 4 “ระบบ DEAL” เพราะเป็นบทสรุป และเป็นหัวใจสำคัญของหนังสือเล่มนี้ อธิบายขั้นตอนการสร้างธุรกิจ 4-Hour Workweek อย่างชัดเจน

เรื่องที่อยากเล่าให้ผู้ทำธุรกิจจัดการเดี่ยวฟัง:

อยากเล่าเรื่อง “ความสำคัญของ Mindset” การทำธุรกิจ ไม่ใช่แค่ “การทำงานหนัก” แต่ต้อง “ทำงานอย่างชาญฉลาด” กล้าคิดนอกกรอบ และมองหาโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ

เชิญชวนให้ไปอ่าน:

“ทำน้อยแต่รวยมาก” เป็นหนังสือที่ควรค่าแก่การอ่าน สำหรับทุกคนที่ต้องการ “หลุดพ้น” จากชีวิตแบบเดิมๆ และสร้างธุรกิจที่ให้ทั้ง “อิสรภาพ” และ “รายได้”

แหล่งคำวิจารณ์จากคนดังที่อ่านหนังสือเล่มนี้:

  • Seth Godin: “หนังสือเล่มนี้จะเปลี่ยนวิธีคิดของคุณเกี่ยวกับงาน และชีวิต”
  • Tom Peters: “ทิโมธี เฟอร์ริสส์ คือ ‘guru’ คนใหม่ของยุคนี้”
  • Stephen R. Covey: “หนังสือที่ท้าทาย และสร้างแรงบันดาลใจ ให้คุณออกแบบชีวิตในแบบของคุณเอง”
  • Dr. Wayne Dyer: “หนังสือเล่มนี้ จะช่วยให้คุณค้นพบ ‘ความหมายที่แท้จริง’ ของชีวิต”
  • Tony Robbins: “ถ้าคุณต้องการ ‘เปลี่ยนแปลงชีวิต’ หนังสือเล่มนี้ คือ ‘จุดเริ่มต้น’ ที่ดีที่สุด”

รีวิวที่คนชอบเยอะ:

  • “อ่านแล้ว รู้สึกเหมือน ‘ตาสว่าง’ เลยค่ะ ไม่เคยคิดว่าจะมีวิธีการทำงานแบบนี้ มาก่อน”
  • “หนังสือเล่มนี้ ช่วยให้ผม ‘กล้า’ ที่จะลาออกจากงานประจำ มาทำธุรกิจของตัวเอง”
  • “ชอบตรงที่ ‘อ่านง่าย’ เข้าใจง่าย และมี ‘ตัวอย่าง’ ประกอบ ทำให้เห็นภาพชัดเจน”
  • “อ่านจบแล้ว รู้สึก ‘มีแรงบันดาลใจ’ อยากลงมือทำตาม ทันที”
  • “เป็นหนังสือที่ ‘เปลี่ยนชีวิต’ ผมไปเลยครับ ตอนนี้ ผมมีอิสรภาพ ทั้งเวลา และสถานที่”

ข้อวิจารณ์และข้อควรระวัง

  1. ข้อดี
  • นำเสนอมุมมองใหม่ในการทำงาน
  • ให้เครื่องมือและวิธีการที่ปฏิบัติได้จริง
  • กระตุ้นให้คิดนอกกรอบ
  1. ข้อจำกัด
  • บางแนวคิดอาจไม่เหมาะกับทุกอาชีพ
  • ต้องมีทุนและทักษะพื้นฐานบางอย่าง
  • อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัว

สรุป

“ทำน้อยแต่รวยมาก” เป็นหนังสือที่ท้าทายวิธีคิดแบบดั้งเดิมเกี่ยวกับการทำงานและความสำเร็จ แม้ว่าจะไม่สามารถนำทุกแนวคิดไปใช้ได้ในทันที แต่หลักการพื้นฐานเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพและการสร้างอิสรภาพในการทำงานนั้นมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับคนทำงานในยุคปัจจุบัน การนำแนวคิดไปประยุกต์ใช้ควรคำนึงถึงบริบทและสถานการณ์ของแต่ละคน

ผมได้สรุปสาระสำคัญของหนังสือไว้อย่างครอบคลุม ทั้งแนวคิดหลัก การประยุกต์ใช้ และข้อควรพิจารณาต่างๆ มีประเด็นไหนที่คุณสนใจเป็นพิเศษไหมครับ? ผมยินดีอธิบายเพิ่มเติมครับ

Leave A Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

You May Also Like