รีวิวหนังสือ “แบรนด์ไหนจะปัง วัดที่พลังการสื่อสาร: Building a StoryBrand”

ผู้เขียน: Donald Miller เป็นนักเขียนและนักพูดที่มีชื่อเสียงในวงการธุรกิจและการตลาด เขาเป็นผู้ก่อตั้ง StoryBrand บริษัทที่ช่วยแบรนด์ต่าง ๆ ในการสร้างข้อความที่ชัดเจนและมีพลังผ่านการเล่าเรื่อง เขาเขียนหนังสือ “Building a StoryBrand” ซึ่งกลายเป็นหนังสือขายดีระดับสากลและได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวาง ด้วยประสบการณ์และความรู้ที่ลึกซึ้งในด้านการตลาดและการเล่าเรื่อง Donald Miller ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับเจ้าของธุรกิจ นักการตลาด และผู้ประกอบการทั่วโลก

วันที่พิมพ์ครั้งแรก: ตุลาคม 2560 (ภาษาอังกฤษ)

หนังสือเล่มนี้เผยเคล็ดลับการสร้างแบรนด์ให้โดนใจลูกค้า ด้วยการใช้พลังของ “การเล่าเรื่อง” Donald Miller ผู้เขียน ได้นำเสนอแนวคิด StoryBrand Framework ซึ่งเป็นขั้นตอน 7 ขั้นตอนในการสื่อสารแบรนด์ให้ชัดเจน เข้าใจง่าย และตรงใจลูกค้า เปรียบเสมือนการสร้าง “หนัง” โดยมีลูกค้าเป็น “พระเอก” และแบรนด์เป็น “ผู้ชี้ทาง” ที่จะช่วยให้พระเอกเอาชนะปัญหาและบรรลุเป้าหมายได้

Miller เน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่น่าเชื่อถือและดึงดูดใจลูกค้าผ่านการเล่าเรื่อง เขาอธิบายว่า ทุกแบรนด์ควรมี “เรื่องเล่า” ที่สามารถเชื่อมโยงกับลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งและมีความหมาย เพื่อที่จะสร้างความผูกพันและความไว้วางใจระหว่างแบรนด์และลูกค้า ขั้นตอน 7 ขั้นตอนใน StoryBrand Framework นี้ครอบคลุมตั้งแต่การสร้างตัวละครหลัก (ลูกค้า) การกำหนดปัญหาที่พวกเขาต้องเผชิญ การเสนอวิธีแก้ไขที่แบรนด์สามารถให้ได้ การแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ดีหากลูกค้าใช้บริการของแบรนด์ รวมไปถึงการสื่อสารอย่างชัดเจนว่าทำไมลูกค้าควรเลือกแบรนด์ของคุณ

นอกจากนี้ หนังสือยังเน้นเรื่องการสื่อสารที่ไม่ซับซ้อนและกระชับ เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจได้ภายใน 5 วินาทีแรกของการรับชมสื่อจากแบรนด์ของคุณ การทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขาเป็น “พระเอก” ในเรื่องราวของแบรนด์จะทำให้พวกเขารู้สึกมีความสำคัญและมีความผูกพันกับแบรนด์มากขึ้น

การใช้ StoryBrand Framework จะช่วยให้แบรนด์ของคุณสามารถสร้างข้อความที่มีพลัง ดึงดูดใจ และเป็นที่จดจำได้ง่าย ทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกที่ดีต่อแบรนด์และมีโอกาสที่จะกลับมาใช้บริการอีกในอนาคต

ข้อสำคัญของหนังสือเล่มนี้

• ความสำคัญของการสื่อสารที่ชัดเจน: หลายครั้งที่แบรนด์พลาดโอกาสในการขาย เพราะสื่อสารกับลูกค้าไม่รู้เรื่อง
• วิธีการวางตำแหน่งแบรนด์: ให้เป็น “ผู้ชี้ทาง” ที่คอยช่วยเหลือลูกค้า ไม่ใช่เป็น “ฮีโร” ที่ขโมยซีน
• การสร้าง “เรื่องราว” ให้กับแบรนด์: เพื่อดึงดูดความสนใจ สร้างความผูกพัน และจดจำง่าย
• การนำเสนอคุณค่าของแบรนด์: ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า
• การกระตุ้นให้ลูกค้า “ลงมือทำ”: เช่น การซื้อสินค้า สมัครสมาชิก หรือติดต่อสอบถาม

10 ข้อคิดของหนังสือ:

1. ลูกค้าคือ “พระเอก” ไม่ใช่แบรนด์
2. สื่อสารให้ชัดเจน เข้าใจง่าย ใน 5 วินาที
3. แบรนด์ต้องเป็น “ผู้ชี้ทาง” ที่คอยช่วยเหลือลูกค้า
4. กำหนดปัญหาของลูกค้าให้ชัดเจน
5. นำเสนอแผนการแก้ปัญหา
6. แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
7. กระตุ้นให้ลูกค้า “ลงมือทำ”
8. หลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์เทคนิคที่ลูกค้าไม่เข้าใจ
9. ใช้ภาพ วิดีโอ และสื่อต่างๆ ประกอบการเล่าเรื่อง
10. ทดสอบและปรับปรุงการสื่อสารอยู่เสมอ

StoryBrand Framework: 7 ขั้นตอนในการสื่อสารแบรนด์ให้ปัง

1. ตัวละคร

เริ่มต้นด้วยการกำหนดว่าใครคือลูกค้าหรือผู้ฟังของคุณ พวกเขาคือใคร มีความต้องการหรือปัญหาอะไร

2. มีปัญหา

ระบุปัญหาที่ลูกค้าหรือผู้ฟังของคุณกำลังเผชิญอยู่ ชี้ให้เห็นถึงความเจ็บปวดหรือความยากลำบากที่พวกเขาต้องการแก้ไข

3. ผู้ชี้ทาง

แสดงให้เห็นว่าแบรนด์ของคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญและพร้อมที่จะช่วยเหลือลูกค้า ทำให้พวกเขารู้สึกว่าคุณเข้าใจและสามารถช่วยแก้ปัญหาได้

4. มีแผน

นำเสนอแผนการแก้ปัญหาที่ชัดเจนและมีขั้นตอน ให้ลูกค้ารู้ว่าควรทำอะไรและจะเดินไปในทิศทางไหน

5. เรียกร้องให้ลงมือทำ

กระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจและลงมือทำ โดยการเรียกร้องให้พวกเขาปฏิบัติตามแผนที่เสนอ

6. หลีกเลี่ยงความล้มเหลว

แสดงให้เห็นว่าหากลูกค้าไม่ทำตามแผนหรือไม่ลงมือทำ พวกเขาอาจต้องเผชิญกับผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์

7. ประสบความสำเร็จ

แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ดีขึ้นหากลูกค้าทำตามแผน นำเสนอภาพของความสำเร็จและความสุขที่พวกเขาจะได้พบ

StoryBrand Framework ทั้ง 7 ขั้นตอนนี้จะช่วยให้การสื่อสารของแบรนด์คุณมีความชัดเจน และน่าสนใจมากขึ้น ทำให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันและพร้อมที่จะลงมือทำตามคำแนะนำของคุณ

ความประหลาดใจหรือความแปลกใหม่ในเรื่องนี้คืออะไร:

• การนำเสนอแนวคิด “เรื่องเล่า” ในมุมมองธุรกิจ: ช่วยให้เข้าใจบทบาทของแบรนด์และลูกค้าได้อย่างชัดเจน
• StoryBrand Framework: เป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่าย และนำไปปรับใช้ได้จริง

คิดเชื่อมโยงหนังสือเข้ากับการทำธุรกิจจัดการเดี่ยว:

• สร้างแบรนด์ส่วนตัวให้แข็งแกร่ง: โดยนำเสนอตัวเองเป็น “ผู้เชี่ยวชาญ” ที่คอยช่วยเหลือลูกค้า
• สื่อสารข้อความทางการตลาดให้ชัดเจน: ทั้งบนเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และสื่อสิ่งพิมพ์
• สร้าง “เรื่องราว” เกี่ยวกับธุรกิจ: เพื่อสร้างความโดดเด่นและน่าจดจำ

ศัพท์เทคนิค 10 คำที่อยู่ในหนังสือพร้อมความหมาย:

1. StoryBrand Framework: โครงสร้าง 7 ขั้นตอนในการสื่อสารแบรนด์
2. BrandScript: เครื่องมือช่วยวางแผนการสื่อสารแบรนด์
3. Hero: พระเอก (ในที่นี้คือลูกค้า)
4. Guide: ผู้ชี้ทาง (ในที่นี้คือแบรนด์)
5. Problem: ปัญหาของลูกค้า
6. Plan: แผนการแก้ปัญหา
7. Success: ผลลัพธ์ที่ลูกค้าจะได้รับ
8. Failure: ผลลัพธ์ที่ลูกค้าจะได้รับหากไม่ใช้สินค้าหรือบริการ
9. Call to Action: การกระตุ้นให้ลูกค้า “ลงมือทำ”
10. Translational: การสื่อสารที่แปลงความซับซ้อนให้เป็นเรื่องง่าย

ก่อนเริ่มอ่านแล้วหลังอ่านคิดว่าทำอะไรให้เปลี่ยนแปลงและดีขึ้น:

• ก่อนอ่าน: สื่อสารกับลูกค้าแบบ “ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว” เน้นข้อมูลเยอะๆ แต่ไม่ตรงจุด
• หลังอ่าน: สื่อสารแบบ “เล่าเรื่อง” เน้นความเข้าใจง่าย ตรงใจลูกค้า และมี Call to Action ที่ชัดเจน

3 สิ่งที่จะเป็นประโยชน์ที่นำไปใช้ในการทำธุรกิจจัดการเดี่ยว:

1. เข้าใจลูกค้ามากขึ้น: มองลูกค้าเป็น “พระเอก” และนำเสนอตัวเองเป็น “ผู้ชี้ทาง”
2. สื่อสารได้ตรงจุด: ใช้ StoryBrand Framework ในการวางแผนการสื่อสาร
3. สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง: ด้วยพลังของ “เรื่องเล่า”

บทที่ชอบที่สุดในนี้:

บทที่ 3: กำหนดปัญหาของลูกค้าให้ชัดเจน (Identifying the Problem)

เรื่องที่อยากเล่าให้ผู้ทำธุรกิจจัดการเดี่ยวฟัง:

“หยุดเป็นฮีโร่ แล้วเริ่มเป็นผู้ชี้ทาง” หลายครั้งที่ธุรกิจเล็กๆ พยายามนำเสนอตัวเอง จนลืมไปว่าลูกค้าต่างหากคือ “พระเอก” การเปลี่ยนมุมมอง ให้แบรนด์เป็น “ผู้ชี้นำ” ที่คอยช่วยเหลือ จะทำให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อมั่น และไว้วางใจมากขึ้น

เชิญชวนให้ไปอ่าน:

“แบรนด์ไหนจะปัง วัดที่พลังการสื่อสาร: Building a StoryBrand” เป็นหนังสือที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย และมีประโยชน์มาก สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีสร้างแบรนด์ให้ปัง แนะนำให้อ่านเล่มนี้เลยครับ!

แหล่งคำวิจารณ์จากคนดังที่อ่านหนังสือเล่มนี้:

• Seth Godin: “หนังสือเล่มนี้ จะช่วยให้คุณสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
• Dave Ramsey: “Donald Miller เข้าใจหัวใจของการตลาด และนำเสนอออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม”
• Nancy Duarte: “StoryBrand Framework เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง สำหรับการสร้างแบรนด์”
• Michael Hyatt: “หนังสือเล่มนี้ เปลี่ยนวิธีคิดของผมเกี่ยวกับการตลาดไปเลย”
• Ann Handley: “ถ้าคุณอยากให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ของคุณ ต้องอ่านเล่มนี้”

รีวิวที่คนชอบเยอะสัก 5 รีวิว:

• “อ่านง่าย เข้าใจง่าย นำไปใช้ได้จริง”
• “เปลี่ยนวิธีคิดเกี่ยวกับการสร้างแบรนด์ไปเลย”
• “StoryBrand Framework เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมาก”
• “ช่วยให้ธุรกิจของฉันเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด”
• “แนะนำให้อ่าน สำหรับทุกคนที่อยากสร้างแบรนด์ให้ปัง”